Customs Clearance
  • การปฏิบัติพิธีการศุลกากร
  • การนำเข้าสินค้า
    • คู่มือใบขนสินค้าขาเข้า
      • โครงสร้างข้อมูล
      • การคำนวณมูลค่าเงินนำเข้า
      • รูปแบบเลขที่ใบขนสินค้า
      • ประเภทของเอกสาร (Document Type)
      • ระบบทะเบียนผู้มาติดต่อ
      • วันนำเข้า (Arrival Date)
      • เลขที่ใบตราส่ง (Bill of Lading)
      • การกำหนดสถานที่
      • Shipping Marks
      • จำนวนและน้ำหนักของสินค้า
      • มีปัญหาพิกัด ราคา พบพนักงานศุลกากร
      • รหัสสกุลเงินตราและอัตราแลกเปลี่ยน
      • หลักการรวมรายการของบัญชีราคาสินค้า
      • ราคาของในการจัดทำข้อมูลใบขนสินค้าขาเข้า
      • INCOTERMS
      • ภาค 4 ของที่ได้รับยกเว้นอากร
        • 1 ภาค 4 สุทธินำกลับ
        • 2 ภาค 4 นำกลับไปซ่อม
        • 3 ภาค 4 ทัณฑ์บนนำเข้าชั่วคราว
        • 5 ภาค 4 ของใช้ส่วนตัว
        • 6 ภาค 4 ของใช้ในบ้านเรือนที่ใช้แล้ว
        • 7 ภาค 4 อุปกรณ์ของอากาศยานหรือเรือ
        • 10 ภาค 4 ของที่ได้รับเอกสิทธิ์
        • 11 ภาค 4 นำเข้ามาเพื่อบริจาค
        • 13 ภาค 4 ยุทธภัณฑ์ที่ใช้ในราชการ
        • 14 ภาค 4 ตัวอย่างสินค้า
        • 16 ภาค 4 นำเข้ามาสำหรับคนพิการ
        • 17 ภาค 4 นำเข้ามาสำหรับการประชุมระหว่างประเทศ
        • วัสดุอุปกรณ์ในการขุดเจาะน้ำมัน
      • สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร
      • การชำระหรือวางประกันค่าภาษีอากร
        • การขอวางประกันโต้แย้งพิกัดอัตราศุลกากร
        • ขอวางประกันกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
        • วางประกันอากรตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุน
        • หลักการบันทึกค่าภาษีอากรและวางประกัน
      • Payment Method and Guarantee Method
      • รหัสเหตุผลการโต้แย้ง (Argumentative Reason Code)
      • ประเภทค่าภาษีอากร (Duty Type)
      • หน่วยงานผู้ออกใบอนุญาต
      • การตรวจสอบระหว่างใบขนสินค้ากับ Manifest
      • รหัสสิทธิพิเศษ
    • ภาษีสรรพสามิต
      • การคำนวณภาษีสินค้าสรรพสามิต
        • เครื่องดื่มเข้มข้น
        • เครื่องดื่มชนิดผง เกล็ด
        • เครื่องดื่ม
        • ยาสูบ
        • สุรา
      • โครงสร้างราคาขายปลีกแนะนำ
      • สืบค้นรหัสสินค้าสรรพสามิต
    • การชำระค่าภาษีอากร ค่าธรรมเนียม
    • มาตรการปกป้องและตอบโต้ทางการค้า
  • สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร
    • คู่มือสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร
      • การโอนย้ายของออกจาก
        • ขอคืนอากรตามมาตรา 29
        • ส่งเสริมการลงทุน BOI
        • คลังสินค้าทัณฑ์บน
        • เขตปลอดอากร (Freezone)
        • เขตประกอบการเสรี (I-EAT Freezone)
      • เลขทะเบียนสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร
        • ขอคืนอากรตามมาตรา 29
        • คลังสินค้าทัณฑ์บน
        • เขตปลอดอากร/เขตประกอบการเสรี
  • ใบอนุญาต/ใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์
    • รหัสยกเว้นไม่ต้องมีใบอนุญาต
  • สิทธิพิเศษทางการค้า
    • Checklist
    • ASEAN
    • ASEAN - China
  • ถ่ายลำ/ผ่านแดน
  • ข้อมูลติดต่อด่านศุลกากร
Powered by GitBook
On this page
  • ขอคืนอากรตามมาตรา 29
  • คลังสินค้าทัณฑ์บน
  • เขตปลอดอากร (Free Zone)
  • เขตประกอบการเสรี (นิคมอุตสาหกรรม)
  • ส่งเสริมการลงทุน (BOI)
  • สิทธิคืนอากรขาเข้า ตามมาตรา 28 (Re-Export)

Was this helpful?

  1. การนำเข้าสินค้า
  2. คู่มือใบขนสินค้าขาเข้า

สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร

ขอคืนอากรตามมาตรา 29

  1. ระบุ 19bis = Y ที่ส่วนรายการในใบขนสินค้า

  2. ระบุ Import Tax Incentives ID = เลขที่ทะเบียนผู้ใช้สิทธิตามมาตรา 29 ที่ส่วนรายการในใบขนสินค้า

    1. ระบุ Privilege Code

      • กรณีชำระอากร ให้ระบุตามสิทธิที่มีขณะนำเข้า เช่น มาตรา 12, WTO, TAU, AFTA

        เป็นต้น และต้องคำนวณค่าภาษีอากรตามปกติ

      • กรณีวางประกันตามมาตรา 30 ให้ระบุ Privilege Code = 000 ตามอัตราปกติเท่านั้น

  3. การชำระอากรตรวจสอบกับหลักการ ตามมาตรา 29 เช่น

    • ชำระอากรเต็มจำนวน

    • ลดเหลือกึ่งหนึ่งจากอากรที่เรียกเก็บเป็นการทั่วไป ตามมาตรา 12 พระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร (สำหรับ จดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์, บริษัทมหาชนจำกัด, สมาชิกสภาอุตสาหกรรม, สมาชิกหอการค้า, อื่น ๆ) ให้บันทึก Exemption Rate = 50

    • ลดเหลือร้อยละ 5 จากอากรที่เรียกเก็บเป็นการทั่วไป ตามมาตรา 12 พระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร (สำหรับ Gold Card) ให้บันทึก Exemption Rate = 95

  4. วางประกันตามมาตรา 30 สำหรับของนำเข้าตามมาตรา 29 ให้บันทึกการวางประกัน โดย ระบุรหัสเหตุผลการวางประกันมาในช่อง Deposit Reason Code (D09) ที่ส่วนรายการในใบขนสินค้า (Deposit) ระบุจำนวนเงินวางประกันมาในช่อง Deposit Amount ที่ส่วนรายการในใบขนสินค้า (Duty) และที่ส่วนรายการในใบขนสินค้า (Deposit)

    • อากรศุลกากร ให้ยกยอดจากอากรศุลกากรที่ตรวจสอบกับหลักการ มาวางประกัน

    • ภาษีสรรพสามิตและค่าภาษีอากรอื่น ๆ ต้องวางประกันเต็มจำนวน

    • VAT ต้องชำระเต็ม ไม่สามารถวางประกันได้

    • การวางประกันให้ ปัดเศษของสตางค์ (ทศนิยมหลักที่ 3) ตามหลักสากล

คลังสินค้าทัณฑ์บน

  • ระบุ Bond = Y ที่ส่วนรายการในใบขนสินค้า

  • ระบุ Import Tax Incentives ID = เลขที่ทะเบียนผู้ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร ที่นำสินค้า

    เข้าเก็บ ที่ส่วนรายการในใบขนสินค้า

  • ให้ระบุเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้นำเข้าตรงกับเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรที่จดทะเบียนคลังสินค้าทัณฑ์บน หรือผู้ที่เจ้าของคลังแจ้งอนุญาตไว้กับกรมศุลกากร

  • ระบุ Privilege Code ตามสิทธิที่มีขณะนำเข้า เช่น มาตรา 12, WTO, TAU, AFTA เป็นต้น และต้องคำนวณค่าภาษีอากรตามปกติ

  • ใช้สิทธิยกเว้นอากรให้ใส่ Exemption Rate = 100

  • ระบุรหัสสถานที่นำเข้า (Discharge Port) เป็นรหัสสถานที่ของศุลกากร ณ ด่านศุลกากร ที่นำของเข้า (First Port)

  • ระบุรหัสสถานที่ตรวจปล่อย (Release Port) ให้บันทึกข้อมูลรหัสสถานที่ตรวจปล่อย (Release Port) เป็น ด่านศุลกากร ที่นำของเข้า (First Port)

เขตปลอดอากร (Free Zone)

  • ระบุ Free Zone = Y ที่ส่วนรายการในใบขนสินค้า

  • ระบุ Import Tax Incentives ID = เลขที่ทะเบียนผู้ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร ที่นำสินค้า

    เข้าเก็บ ที่ส่วนรายการในใบขนสินค้า

  • ให้ระบุเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้นำเข้าตรงกับเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรที่จดทะเบียนผู้ประกอบการในเขต Free Zone หรือ ผู้ที่ผู้ประกอบการในเขต Free Zone แจ้งอนุญาตไว้กับกรมศุลกากร

  • ระบุ Privilege Code ตามสิทธิที่มีขณะนำเข้า เช่น มาตรา 12, WTO, TAU, AFTA เป็นต้น และต้องคำนวณค่าภาษีอากรตามปกติ

  • ใช้สิทธิยกเว้นอากรให้ใส่ Exemption Rate = 100

  • ระบุรหัสสถานที่นำเข้า (Discharge Port) เป็นรหัสสถานที่ของศุลกากร ณ ด่านศุลกากรที่

    นำของเข้า (First Port) หรือโรงพักสินค้าหรือที่มั่นคง ซึ่งเป็นที่ตรวจและเก็บสินค้าดังกล่าว

  • ระบุรหัสสถานที่ตรวจปล่อย (Release Port) ให้บันทึกข้อมูลรหัสสถานที่ตรวจปล่อย (Release Port) เป็น ด่านศุลกากร ที่นำของเข้า (First Port)

เขตประกอบการเสรี (นิคมอุตสาหกรรม)

  • ระบุ I-EA-T = Y ที่ส่วนรายการในใบขนสินค้า

  • ระบุ Import Tax Incentives ID = เลขที่ทะเบียนผู้ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร ที่นำสินค้า

    เข้าเก็บ ที่ส่วนรายการในใบขนสินค้า

  • ให้ระบุเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้นำเข้าตรงกับเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรที่จดทะเบียนผู้ประกอบการในเขตประกอบการเสรี หรือ ผู้ที่ผู้ประกอบการในเขตประกอบการเสรี แจ้งอนุญาตไว้กับกรมศุลกากร

  • ระบุ Privilege Code ตามสิทธิที่มีขณะนำเข้า เช่น มาตรา 12, WTO, TAU, AFTA เป็นต้น และต้องคำนวณค่าภาษีอากรตามปกติ

  • ใช้สิทธิยกเว้นอากรให้ใส่ Exemption Rate = 100

  • ระบุรหัสสถานที่นำเข้า (Discharge Port) เป็นรหัสสถานที่ของศุลกากร ณ ด่านศุลกากรที่

    นำของเข้า (First Port) หรือโรงพักสินค้าหรือที่มั่นคง ซึ่งเป็นที่ตรวจและเก็บสินค้าดังกล่าว

  • ระบุรหัสสถานที่ตรวจปล่อย (Release Port) ให้บันทึกข้อมูลรหัสสถานที่ตรวจปล่อย (Release Port) เป็น ด่านศุลกากร ที่นำของเข้า (First Port)

ส่งเสริมการลงทุน (BOI)

  • ระบุ BOI = Y ที่ส่วนรายการในใบขนสินค้า

    • ระบุ เลขที่บัตรส่งเสริมการลงทุน BOI ในช่อง BOI License Number ที่ส่วนรายการในใบขนสินค้า

    • Privilege Code = 000 ตามอัตราปกติ หรือ 999 ตามพระราชกำหนด เท่านั้น

    • ระบุเลขที่อนุมัติสั่งปล่อยของ BOI ส่วนใบอนุญาต

    • การชำระอากร ให้ระบุ Exemption Rate = ตามที่ BOI อนุมัติให้ เช่น

      • ยกเว้นอากร ให้บันทึก Exemption Rate = 100

      • ลดเหลือกึ่งหนึ่ง ให้บันทึก Exemption Rate = 50

      • ลดเหลือร้อยละ 5 ให้บันทึก Exemption Rate = 95

      • การวางประกัน ให้ระบุรหัสเหตุผลการวางประกันมาในช่อง Deposit Reason Code (D10) ที่ส่วนรายการในใบขนสินค้า (Deposit) ระบุจำนวนเงินวางประกันมาในช่อง Deposit Amount ที่ส่วนรายการใน ใบขนสินค้า (Duty) และที่ส่วนรายการในใบขนสินค้า (Deposit)

      • อากรศุลกากร ให้ระบุยอดวางประกัน ตามที่ BOI อนุมัติให้

      • VAT ให้ระบุยอดวางประกัน ตามที่ BOI อนุมัติให้

      • ภาษีสรรพสามิตและภาษีเพื่อมหาดไทย ต้องชำระเต็ม เท่านั้น

สิทธิคืนอากรขาเข้า ตามมาตรา 28 (Re-Export)

สิทธิคืนอากรของส่งกลับไปยังต่างประเทศ (Re-Export) ตามมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร

  1. ผู้นำของเข้ามาในราชอาณาจักรและเสียอากรแล้ว หากส่งของนั้นกลับออกไปนอกราชอาณาจักร หรือส่งไปเป็นของใช้สิ้นเปลืองในเรือหรืออากาศยานที่เดินทางออกไปนอกราชอาณาจักรให้มีสิทธิขอคืนอากร

    ขาเข้าสำหรับของนั้นเก้าในสิบส่วนหรือส่วนที่เกินหนึ่งพันบาทของจำนวนที่ได้เรียกเก็บไว้โดยคำนวณตาม

    ใบขนสินค้าขาออกแต่ละฉบับ แล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า ตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้

    • ต้องพิสูจน์ได้ว่าเป็นของรายเดียวกันกับที่นำเข้ามาในราชอาณาจักร

    • ต้องไม่นำของนั้นไปใช้ประโยชน์ในระหว่างที่อยู่ในราชอาณาจักร เว้นแต่การใช้ประโยชน์เพื่อส่งของนั้นกลับออกไปนอกราชอาณาจักร และมิได้เปลี่ยนแปลงสภาพหรือลักษณะแห่งของนั้น

    • ได้ส่งของนั้นกลับออกไปนอกราชอาณาจักรภายในกำหนดหนึ่งปีนับแต่วันที่นำของนั้นเข้ามาในราชอาณาจักร และ

    • ต้องขอคืนอากรภายในกำหนดหกเดือนนับแต่วันที่ส่งของนั้นกลับออกไปนอกราชอาณาจักร

  2. กรณีของที่จะส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักรยังมิได้มีการปล่อยออกไปจากอารักขาของศุลกากร

    • ระบุ Re-Export = Y ที่ส่วนรายการในใบขนสินค้าทุกรายการ

    • มีเงื่อนไขต้องส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักรทั้งฉบับ โดยให้ ชำระค่าภาษีอากรหนึ่งใน 10 หรือไม่เกิน 1,000 บาท ต่อใบขนสินค้าขาเข้า

    • ระบุ Privilege Code ตามสิทธิที่มีขณะนำเข้า เช่น มาตรา 12, WTO, TAU, AFTA เป็นต้น

    • ระบุTariff Code พิกัดอัตราศุลกากร ให้ตรงกับชนิดของที่จะส่งกลับออกไป

    • อัตราอากร ใช้ Tariff Code และ Tariff Sequence ไปอ่านอัตราอากรที่ Table REFDRT

  3. วิธีการคำนวณ

4. ให้จัดทำใบขนสินค้าขาเข้าก่อน และนำ เลขที่ใบขนสินค้าขาเข้าพร้อมรายการไปบันทึกไว้ในใบขนสินค้าขาออก

5. กรณีของที่จะส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักร อยู่นอกอารักขาของศุลกากรแล้ว ให้ทำใบขนสินค้าขาเข้าปกติ และจัดทำใบขนสินค้าขาออกโดยระบุในแต่ละรายการที่ส่งออกเป็น Re-Export และให้ระบุเลขที่ใบขนสินค้าขาเข้าพร้อมรายการ แล้วไปดำเนินการขอคืนอากรในระบบคืนอากรทั่วไปเมื่อส่งออกเรียบร้อยแล้ว

6. กรณีของที่จะส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักรเพียงบางส่วน อนุญาตให้ทำ Re-Export ในอารักขาโดยให้ ชำระค่าภาษีอากรหนึ่งใน 10 หรือไม่เกิน 1,000 บาท ต่อใบขนสินค้าขาเข้า เฉพาะกรณีที่สามารถแยก D/O ได้เท่านั้น

Previousวัสดุอุปกรณ์ในการขุดเจาะน้ำมันNextการชำระหรือวางประกันค่าภาษีอากร

Last updated 5 years ago

Was this helpful?

enter image description here